เดือน สิงหาคม 2567 ธนาคารส่วนใหญ่ยังคงใช้ผลิตภัณฑ์อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านเฉลี่ย 3 ปีแรกจากเดือน กรกฎาคม ปี 2567 ซึ่งทาง DDproperty ก็ได้นำอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกที่ต่ำที่สุดมาจัดอันดับ โดยมีอัตราดอกเบี้ยบ้านของธนาคารที่น่าสนใจ ดังนี้
ตารางอัตราดอกเบี้ยบ้าน – คอนโด ของธนาคารพาณิชย์ เดือน สิงห าคม 2567
วงเงินกู้ตามเกณฑ์หลักประกันให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อ (สินเชื่อบ้าน GHB Precious Plus ปี 2567 และสินเชื่อบ้านอยู่สบาย by SCG HEIM ปี 2567 สำหรับลูกค้ารายย่อยทั่วไป และลูกค้าสวัสดิการไม่มีเงินฝาก และผู้กู้มีรายได้ (Gross) ตั้งแต่ 70,000 บาท/เดือนขึ้นไป วงเงินนิติกรรมทุกบัญชีรวมกันตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป) อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 6.545% (ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2567)
วงเงินกู้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด (สินเชื่อบ้านออมสินเพื่อคนไทย กรณีที่ประสงค์ทำประกัน) อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 6.595% (ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2567)
วงเงินกู้ ไม่เกิน 85-100% ของราคาประเมิน (บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม คอนโด ราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป และอาคารพาณิชย์ และโฮมออฟฟิศ ราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป ทั้งมือหนึ่งและมือสอง )อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.400% (ประกาศ ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2566)
วงเงินกู้ขั้นต่ำ 5 แสนบาท สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท (กรณีซื้อจาก บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กลุ่มพิเศษที่ธนาคารกำหนด และสมัครพร้อมผลิตภัณฑ์เสริม 3 ประเภท )***อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมีผลระหว่างวันที่ 2 เม.ย. – 30 มิ.ย. 2567 กรุณาอัปเดตกับธนาคารอีกครั้ง*** อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.830% (ประกาศ ณ วันที่ 3 ตุลาคม 2566 )
วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน (สินเชื่อบ้านกรุงไทยอารมณ์ดี ดอกเบี้ยพิเศษ คงที่ 5 ปี ปี ราคาซื้อขาย และวงเงินกู้ มากกว่า 3 ล้านบาท เลือกผ่อนต่ำ ล้านละ 3,500 บาทต่อเดือนในปีที่ 1 ได้ กรณีผู้กู้ประสงค์ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ) อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.570% (ประกาศ ณ วันที่ 5 ตุลาคม 2566 )
กำหนดให้กู้ได้ไม่เกิน 110% ของราคาซื้อขาย และไม่เกิน 110% ของราคาประเมินหลักประกัน ขึ้นอยู่กับหลักประกันตามที่ธนาคารกำหนด (กลุ่มลูกค้าผู้มีรายได้ประจำตั้งแต่ 100,000 บาทต่อเดือน / กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการที่มีสินเชื่อ SME กับธนาคารกสิกรไทย รายได้ตั้งแต่ 200,000 บาทต่อเดือน / กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการทั่วไป รายได้ตั้งแต่ 300,000 บาทต่อเดือน และกลุ่มลูกค้าประกอบวิชาชีพพิเศษ* ไม่จำกัดระดับรายได้ และสินเชื่อบ้านสีเขียว รักษ์โลก ซื้อบ้านใหม่ประหยัดพลังงาน จากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ รวมไปถึงทรัพย์สินรอการขายของธนาคารกสิกรไทย บ้าน, ห้องชุด และอาคารพาณิชย์ กรณีทำประกันตามเงื่อนไข) อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.300% (ประกาศ ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2566)
วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมินหลักประกัน (อัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อบ้านใหม่สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายตามเงื่อนไขของธนาคาร (Strategic Group) และอัตราดอกเบี้ยสำหรับกลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพเฉพาะ ได้แก่ แพทย์, ทันตแพทย์, สัตวแพทย์, เภสัชกร, อาจารย์มหาวิทยาลัยระดับผู้ช่วยศาสตราจารย์หรือเทียบเท่าขึ้นไป, ผู้พิพากษา และอัยการ) อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.300% (ประกาศ ณ วันที่ 2 ตุลาคม 2566)
วงเงินกู้ไม่เกิน 100% ของราคาประเมิน (สินเชื่อเพื่อกลุ่มวิชาชีพเฉพาะ แพทย์ ผู้พิพากษา อัยการ นักบิน พนักงานประจำที่มีรายได้สูง 200,000 บาทขึ้นไป ***อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมีผลในระหว่างวันที่ 11 ม.ค. – 31 มี.ค. 2567 กรุณาอัปเดตกับธนาคารอีกครั้ง*** อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.050% (ประกาศ ณ วันที่ 29 เมษายน 2567)
*** อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน เฉลี่ย 3 ปีแรก คำนวณแบบค่าเฉลี่ยทางคณิตศาสตร์เท่านั้น***
ที่มาอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเฉลี่ย 3 ปี แรก* สามารถดาวน์โหลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในรูปแบบต่างๆ ของแต่ละธนาคาร และชมรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น อัตราดอกเบี้ยรายปี วงเงินกู้ และข้อมูลอื่นๆ ได้ที่นี่: ดาวน์โหลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัย ฉบับเต็มประจำเดือนนี้
8 อันดับธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านเฉลี่ยต่ำที่สุดในเดือนนี้
1.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (G H Bank)
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (G H Bank) มีผลิตภัณฑ์ สินเชื่อบ้าน GHB Precious Plus ปี 2567 และ สินเชื่อบ้านอยู่สบาย by SCG HEIM ปี 2567 ที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีต่ำที่สุด 2.60% แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก = 1.60% และปีที่ 2 = 2.60% และปีที่ 3 = 3.60% สำหรับ ลูกค้ารายย่อยทั่วไป หรือ ลูกค้าสวัสดิการไม่มีเงินฝาก และผู้กู้มีรายได้ (Gross) ตั้งแต่ 70,000 บาท/เดือนขึ้นไป วงเงินนิติกรรมทุกบัญชีรวมกันตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยให้วงเงินกู้ตามเกณฑ์หลักประกันให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อ
นอกจากนั้น ยังมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจอย่าง สินเชื่อบ้านเบอร์ 5 ปี 2567 ที่มีเงื่อนไขในการกู้สินเชื่อซื้อโครงการจัดสรร (FT/LTF/SFT/RFT/BZP) ที่ผ่านการรับรองคุณสมบัติบ้านเบอร์ 5 จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ ปลูกสร้างที่อยู่อาศัย โดยใช้แบบบ้านประหยัดพลังงานของธนาคาร ที่ได้รับการรับรองคุณสมบัติบ้านเบอร์ 5 จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 2.76% และให้วงเงินกู้ตามเกณฑ์หลักประกันให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อ ในปัจจุบันมีผู้ประกอบการอสังหริมทรัพย์เข้าร่วมโครงการบ้านเบอร์ 5 กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้แก่
ทั้งนี้เอง
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (G H Bank) ยังมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจสำหรับคนรักสัตว์
สินเชื่อบ้าน Big Family X Pet lover ปี 2567 เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ หรือ อนุญาตให้สัตว์เลี้ยงเข้าใช้บริการพื้นที่ส่วนกลาง โดยมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่
2.76% เช่นกัน และให้วงเงินกู้ตามเกณฑ์หลักประกันให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อ โดยสามารถ
ดูโครงการคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ที่น่าสนใจได้ที่นี่
รวมไปถึงสินเชื่อนโยบายรัฐ โครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home ที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 1-5 = 3.00% โดยให้ วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 3,000,000 บาท ต่อรายต่อหลักประกัน โดยกำหนดระยะเวลากู้ไม่น้อยกว่า 3 ปี และไม่เกิน 40 ปี อายุผู้กู้รวมกับจำนวนปีที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี ยกเว้นข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่น ๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี ให้ใช้อายุของผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปี และกำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2567 และทำนิติกรรมจนกว่าสินเชื่อเต็มกรอบวงเงินของโครงการ ทั้งนี้ ไม่เกินวันที่ 30 ธันวาคม 2568
ทั้งนี้เอง
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (G H Bank) มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีค่อนข้างต่ำ อาทิ สินเชื่อที่ร่วมกับนโยบายรัฐ โครงการบ้านจัดสรรที่ธนาคารกำหนด และสินเชื่อบ้านมือสอง ธอส เป็นต้น โดยจะมีระยะเวลาในการขอสินเชื่อตามที่ธนาคารกำหนด และสามารถดูอัตราดอกเบี้ยเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจได้ที่
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (G H Bank)
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 6.545% (ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2567)
2.ธนาคารออมสิน (GSB)
ธนาคารออมสิน (GSB) จัดโปรโมชัน สินเชื่อบ้านออมสินเพื่อคนไทย อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 1.95% เฉลี่ย 3 ปี 2.95% พร้อมทางเลือกเงินงวดผ่อนชำระปีที่ 1 ล้านละ 2,500 บาทต่อเดือน ปีที่ 2 ล้านละ 3,500 บาทต่อเดือน และปีที่ 3 ล้านละ 4,500 บาทต่อเดือน หลังจากนั้น 8,200 บาทต่อเดือน สำหรับกรณีผู้กู้ประสงค์ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ โดยวงเงินกู้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด โดยมีระยะเวลาโปรโมชันตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. – 30 ธ.ค. 2567 หรือจนกว่าครบวงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท อนุมัติและจัดทำนิติกรรมสัญญาภายในวันที่ 30 ม.ค. 2568
สำหรับ สินเชื่อเคหะทั่วไป สินเชื่อเคหะสำหรับกลุ่มวิชาชีพเฉพาะ และ สินเชื่อ GSB Green Home Loan บ้านประหยัดพลังงาน มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 4.795% กรณีผู้กู้ประสงค์ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ และมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก = 5.295% กรณีผู้กู้ไม่ ประสงค์ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ โดยอัตราดอกเบี้ยทั้ง 2 รูปแบบให้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 110%
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 6.595% (ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2567)
3.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY)
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีแรกของ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) อยู่ที่ 3.30% จาก สินเชื่อกรุงศรีเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยจากโครงการที่ธนาคารสนับสนุน (Platinum Developers) และโครงการทั่วไป บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม 1 ล้านบาทขึ้นไป และอาคารพาณิชย์ / โฮมออฟฟิศ ราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป ทั้งมือหนึ่งและมือสอง สำหรับลูกค้าทั่วไป / กลุ่มผู้มีรายได้สูง / กลุ่มอาชีพพิเศษ (แพทย์, สัตวแพทย์, ทันตแพทย์, เภสัชกร, ผู้พิพากษา และนักบินพาณิชย์) เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยจากโครงการทั่วไป / กลุ่มลูกค้ากรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ / “คู่เพื่อน” ที่ต้องการใช้ชีวิตร่วมกัน และลูกค้า KRUNGSRI PRIME วงเงินกู้ตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป โดยธนาคารให้วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน (90% ของราคาประเมินสำหรับโครงการกลุ่ม Prime and Potential B) / 90% ของราคาประเมิน (อาคารพาณิชย์ / โฮมออฟฟิศ) และ 90% ของราคาประเมิน (85% ของราคาประเมินสำหรับห้องชุดพักอาศัย) สำหรับลูกค้า KRUNGSRI PRIME
สำหรับ “คู่เพื่อน” ที่ต้องการใช้ชีวิตร่วมกัน จะมีความแตกต่างการจากกู้ร่วมแบบเดิม คือ การขอกู้สินเชื่อบ้านร่วมกันสำหรับคู่เพื่อน ที่ต้องการใช้ชีวิตร่วมกัน นั้นแตกต่างการจากกู้ร่วมแบบเดิม คือ ไม่จำเป็นต้องมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับผู้กู้ แต่จะพิจารณาจากรายได้ ศักยภาพในการชำระคืน และเครดิตของผู้กู้ทั้ง 2 ท่าน รวมถึงการตรวจสอบเพื่อยืนยันความสัมพันธ์ ทั้งนี้ ผู้กู้หลัก และผู้กู้ร่วม จำเป็นต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
บุคคลธรรมดา
สัญชาติไทย
อายุ 27 – 65 ปี
พนักงานประจำ อายุงานรวมที่ทำงานเดิมและปัจจุบันตั้งแต่ 2 ปี ขึ้นไป (งานปัจจุบันต้องผ่านการทดลองงานแล้ว)
ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว ประกอบธุรกิจมาแล้ว ตั้งแต่ 2 ปี ขึ้นไป
ผู้กู้หลักต้องมีรายได้ 30,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป และเมื่อรวมรายได้ของผู้กู้ร่วมแล้วต้องไม่น้อยกว่า 50,000 บาทต่อเดือน
ผู้กู้ต้องมีเอกสารหรือหลักฐานแสดงความสัมพันธ์หรือการอยู่ร่วมกันอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี ตามที่ธนาคารกำหนด เช่น ทะเบียนบ้านที่อยู่ด้วยกัน, บัญชีเงินฝากที่เปิดร่วมกัน เป็นต้น ทั้งนี้สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากพนักงานขาย
ทั้งนี้เอง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ได้ออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และผู้ประกอบการ SME เป็นเวลา 6 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 – 15 พฤศจิกายน 2567
ลูกค้ากลุ่มเปราะบางที่ได้รับความช่วยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
ลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นลูกค้าปัจจุบันที่มีวงเงินอนุมัติรวมไม่เกิน 2 ล้านบาท (ตามข้อมูลธนาคาร ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567) และมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน (ตามการประเมินของธนาคาร ณ วันที่ธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อดังกล่าวครั้งล่าสุด)
ลูกค้าผู้ประกอบการ SME ซึ่งเป็นลูกค้าปัจจุบันครอบคลุมทั้งที่เป็นลูกค้าบุคคลและนิติบุคคล ที่มีวงเงินสินเชื่อธุรกิจรวมไม่เกิน 2 ล้านบาท (ตามข้อมูลธนาคาร ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567) และมียอดขายไม่เกิน 200,000 บาทต่อเดือน (ตามการประเมินของธนาคาร ณ วันที่ธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อดังกล่าวครั้งล่าสุด)
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.400% (ประกาศ ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2566)
4.ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB)
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีต่ำที่สุดอยู่ที่ 3.30% โดยมีเงื่อนไข คือ โครงการที่กู้ซื้อนั้นต้องเป็นบ้านใหม่จาก บริษัทพัฒนาอสังหาฯ กลุ่มพิเศษที่ธนาคารกำหนด (บริษัทฯ พันธมิตร) และต้องสมัครพร้อมผลิตภัณฑ์เสริมทั้ง 3 ประเภท โดยจะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ นาน 3 ปี / ฟรีค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย มูลค่าประมาณ 1,000 บาทต่อปี ต่อราคาบ้าน 1 ล้านบาท / ฟรีค่าจดทะเบียนจำนอง มูลค่า 1% ของเงินกู้ สูงสุด 200,000 บาท และฟรีค่าธรรมเนียมธนาคารของสินเชื่อบ้าน ได้แก้ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์, ค่าดำเนินการสินเชื่อ, ค่าทำนิติกรรมจำนอง
รีวิวโครงการจากบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ชื่อดังบางส่วนตามที่ธนาคารกำหนด
ทั้งนี้เอง ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% ต่อปี สำหรับผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย MRR, MLR และ MOR โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. 2567 – 15 พ.ย. 2567 เป็นระยะเวลา 6 เดือน
ลูกค้ากลุ่มเปราะบางที่ได้รับความช่วยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
ลูกค้าสินเชื่อบ้าน ที่มีรายได้รวมเฉลี่ยต่อเดือน ไม่เกิน 30,000 บาท และมีวงเงินอนุมัติไม่เกิน 2 ล้านบาท
ลูกค้าสินเชื่อเอสเอ็มอี ที่มีรายได้ในปี พ.ศ. 2565 ไม่เกิน 30 ล้านบาท และมีวงเงินอนุมัติไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยมาตรการช่วยเหลือดังกล่าว จะไม่ครอบคลุมลูกค้าสินเชื่อบ้านและสินเชื่อเอสเอ็มอีที่ได้เข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือเฉพาะรายกับธนาคารมาก่อนหน้า
***อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมีผลระหว่างวันที่ 2 เม.ย. – 30 มิ.ย. 2567 กรุณาอัปเดตกับธนาคารอีกครั้ง***
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.830% (ประกาศ ณ วันที่ 3 ตุลาคม 2566)
5.ธนาคารกรุงไทย (KTB)
ธนาคารกรุงไทย (KTB) มีผลิตภัณฑ์ สินเชื่อบ้านกรุงไทยอารมณ์ดี สำหรับที่อยู่อาศัยที่มีราคาซื้อขาย และวงเงินกู้มากกว่า 3 ล้านบาท และผู้กู้ต้องทำประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ โดยมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 3.33% โดยจะมีอัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 = 2.00% ปีที่ 2 = 3.00% และปีที่ 3 = 5.00% และให้วงเงินกู้สูงสุด 100% ระยะเวลากู้สูงสุด 40 ปี
ทั้งนี้เอง ธนาคารกรุงไทย (KTB) ยังมีอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจอย่าง สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับบุคลากรภาครัฐ โดยมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 3.10% ในกรณีของการทำประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ รูปแบบที่ 1 มีอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 = 1.55% ปีที่ 2 = 3.75% และปีที่ 3 = 4.00% และ รูปแบบที่ 2 มีอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 = 2.90% ปีที่ 2-3 = 3.20% โดยสามารถเลือกผ่อนต่ำได้ และให้ระยะเวลากู้สูงสุด 40 ปี
ธนาคารกรุงไทย (KTB) ยังมีทรัพย์มือสองราคาพิเศษพร้อมขายเป็นทางเลือกสำหรับการค้นหาบ้าน หากสนใจสามารถเข้าไปค้นหา
ทรัพย์มือสองของธนาคาร (NPA) ได้
ที่นี่
นอกจากนั้น ธนาคารกรุงไทย (KTB) ก็ออกมาตรการเพิ่มเติม ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับลูกค้ากลุ่มเปราะบางได้มีโอกาสปรับตัวและฟื้นตัว โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ที่มีการเรียกเก็บดอกเบี้ยอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MRR MLR และ MOR ลง 0.25% ต่อปี เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. 2567 – 15 พ.ย. 2567
ลูกค้ากลุ่มเปราะบางที่ได้รับความช่วยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
ลูกค้าสินเชื่อบ้านและสินเชื่อบุคคลที่ยังอยู่ในมาตรการให้ความช่วยเหลือของธนาคาร
ลูกค้าสินเชื่อบ้านที่มีวงเงิน ≤ 2 ล้านบาท
ลูกค้ากลุ่มสินเชื่อ SME รายย่อยทั้งลูกค้าบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ดำเนินธุรกิจ โดยรายได้กิจการต่อเดือน ≤ 2 ล้านบาท และมีวงเงินสินเชื่อ ≤ 10 ล้านบาท
ข้อยกเว้น : ยกเว้นบัญชีสินเชื่ออปท. แบบพิเศษที่ไม่ได้อยู่ในมาตรการให้ความช่วยเหลือของธนาคาร และ ยกเว้นบัญชีที่ศาลมีคำพิพากษาแล้ว
อ้างอิงตามอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเงินให้ MRR = 7.570% (ประกาศ ณ วันที่ 5 ตุลาคม 2566)
6.ธนาคารกสิกรไทย (Kbank)
สำหรับ ธนาคารกสิกรไทย (Kbank) มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.42% แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 1 = 3.09% ปีที่ 2 – 3 = 3.59% สำหรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับกลุ่มลูกค้าผู้มีรายได้ประจำตั้งแต่ 100,000 บาทต่อเดือน / กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการที่มีสินเชื่อ SME กับธนาคารกสิกรไทย รายได้ตั้งแต่ 200,000 บาทต่อเดือน / กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการทั่วไป รายได้ตั้งแต่ 300,000 บาทต่อเดือน และ กลุ่มลูกค้าประกอบวิชาชีพพิเศษ* ไม่จำกัดระดับรายได้ กำหนดให้กู้ได้ไม่เกิน 100% ของราคาซื้อขาย และไม่เกิน 100% ของราคาประเมินหลักประกัน กรณีทำประกันตามเงื่อนไข
รวมไปถึง สินเชื่อบ้านสีเขียว รักษ์โลก ซื้อบ้านใหม่ บ้านรักษ์โลก บ้านประหยัดพลังงาน จากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ โดยกำหนดให้กู้ได้ไม่เกิน 110% ของราคาซื้อขาย และไม่เกิน 110% ของราคาประเมินหลักประกัน กรณีทำประกันตามเงื่อนไข ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี 3.42% เท่ากัน แตกต่างกันที่การกำหนดวงเงินสูงสุด แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 1 = 3.09% ปีที่ 2 – 3 = 3.59% เช่นกัน
ส่วน อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าทั่วไป กู้ซื้อบ้านใหม่ บ้านมือสอง กรณีทำประกันตามเงื่อนไข มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีแรกอยู่ที่ 6.45% แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 1 = 4.99% ปีที่ 2 และ 3= MRR-0.12% โดยกำหนดให้กู้ได้ไม่เกิน 90% ของราคาซื้อขาย และไม่เกิน 90% ของราคาประเมินหลักประกัน ขึ้นอยู่กับหลักประกันตามที่ธนาคารกำหนด
ธนาคารกสิกรไทย (Kbank) ยังมีอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับกู้ซื้อทรัพย์สินรอการขายของธนาคารกสิกร บ้าน ห้องชุด และอาคารพาณิชย์ โดยมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 3.42% กรณีทำประกันตามเงื่อนไข และ 3.59% กรณีไม่ทำประกัน
รวมไปถึง มาตรการช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ในช่วงเศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ลดดอกเบี้ย 0.25% สำหรับเงินกู้ (Loan) ที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ยลอยตัว เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 – 15 พฤศจิกายน 2567
ลูกค้ากลุ่มเปราะบางที่ได้รับความช่วยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
ลูกค้าบุคคลที่ใช้ผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อบ้าน” หรือ “สินเชื่อบ้านช่วยได้” ที่มีวงเงินอนุมัติรวมกับธนาคารกสิกรไทย ไม่เกิน 2,000,000 บาท ตามข้อมูลธนาคาร ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 และมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน ตามการประเมินของธนาคาร ณ วันที่ธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อดังกล่าวครั้งล่าสุด
ลูกค้า SME ที่มียอดค้างชำระเงินกู้กับธนาคารกสิกรไทย และวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนกับธนาคารกสิกรไทย รวมกันแล้วไม่เกิน 2,000,000 บาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 และมียอดขายไม่เกิน 200,000 บาทต่อเดือน ตามการประเมินของธนาคาร ณ วันที่ธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อดังกล่าวครั้งล่าสุด
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.300% (ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2566)
7.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ต่ำที่สุดอยู่ที่ 3.47% คือ อัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อบ้านใหม่สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายตามเงื่อนไขของธนาคาร (Strategic Group) และ สินเชื่อสำหรับกลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพเฉพาะ ได้แก่ แพทย์, ทันตแพทย์, สัตวแพทย์, เภสัชกร, อาจารย์มหาวิทยาลัยระดับผู้ช่วยศาสตราจารย์หรือเทียบเท่าขึ้นไป, ผู้พิพากษา และอัยการ โดยให้อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 = 2.55% และปีที่ 2-3 = MRR-3.37% และให้วงเงินกู้สูงสุด 100% จากราคาประเมินหลักประกัน
สำหรับ ลูกค้าทั่วไป อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อกู้ซื้อบ้านใหม่ของ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) จะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบด้วยกัน คือ แบบที่ 1 (ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อมากกว่า 70% ของวงเงินกู้) มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 7.255% และแบบที่ 2 (ไม่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ) มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 7.30%
นอกจากนั้น
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ยังมี
บ้านมือสองทรัพย์ธนาคาร (NPA) โดยให้อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามประกาศของธนาคาร และการพิจารณาอนุมัติวงเงินสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปค้นหาทรัพย์ยอดนิยมของธนาคารได้
ที่นี่
รวมไปถึง ธนาคารไทยพาณิชย์ เองก็มีประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สำหรับเงินกู้ (Loan) ที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MRR และ MLR เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และผู้ประกอบการ SME รายย่อย เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม – 15 พฤศจิกายน 2567
ลูกค้ากลุ่มเปราะบางที่ได้รับความช่วยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
ลูกค้าบุคคล สินเชื่อบ้าน และ My Home My Cash ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 2 ล้านบาท
ลูกค้าผู้ประกอบการ SME รายย่อย สินเชื่อธุรกิจ ประเภทเงินกู้ระยะยาว (Term Loan) ที่มีวงเงินสินเชื่อรวมไม่เกิน 2 ล้านบาท (โดยพิจารณาจากยอดค้างชำระเงินกู้ระยะยาว และวงเงินสินเชื่อหมุนเวียน)
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.300% (ประกาศ ณ วันที่ 2 ตุลาคม 2566 )
8.ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เป็นสถาบันทางการเงินที่มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อกู้บ้าน คอนโด และทางเลือกของอัตราดอกเบี้ยที่หลากหลายมากที่สุด โดยให้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 100% ของมูลค่าหลักประกัน และมีอัตราดอกเบี้ยคงที่เฉลี่ย 3 ปีต่ำที่สุดอยู่ที่ 3.72% แบ่งออกเป็น ปีที่ 1 = 2.75% ปีที่ 2 และปีที่ 3 = MRR-3.10% โดยให้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 100% ของมูลค่าหลักประกัน
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ที่มีดอกเบี้ยต่ำที่สุดที่ 3.72% ของ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) มีเงื่อนไขในการขอสินเชื่อบ้าน คือ ผู้กู้สินเชื่อต้องเป็นกลุ่มวิชาชีพเฉพาะ คือ แพทย์ ผู้พิพากษา อัยการ และนักบิน หรือ พนักงานประจำที่มีเงินเดือนมากกว่า 200,000 บาท โดยทุกผลิตภัณฑ์ที่กล่าวมามีเงื่อนไข คือ ต้องทำประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ
นอกจากนั้น
ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ยังมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านอื่น ๆ อีกมากมาย โดยจะมีระยะเวลาในการขอสินเชื่อตามที่ธนาคารกำหนด และสามารถดูอัตราดอกเบี้ยเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจได้ที่
ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
***อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมีผลระหว่างวันที่ 11 ม.ค. – 31 มี.ค. 2567 กรุณาอัปเดตกับธนาคารอีกครั้ง***
อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.050% (ประกาศ ณ วันที่ 29 เมษายน 256 7)
กรณีตัวอย่าง : ใ ช้อัตราส่วนการผ่อนชำระเบื้องต้นที่ 1,000,000 : 7,000
หากกู้ซื้อบ้านในราคาประเมิน 2,000,000 บาท สามารคิดเป็นยอดชำระเริ่มต้นต่อเดือนจากวงเงินกู้ได้ที่ประมาณ 14,000 บาทต่อเดือน
***คำนวณเบื้องต้นจากสมมุติ*** โดยใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.89% ตลอดปีที่ 1-3
กู้ซื้อบ้านกับธนาคารแห่งหนึ่งที่มีดอกเบี้ยเฉลี่ยทั้ง 3 ปีอยู่ที่ 2.89% โดยแบ่งชำระเป็นจำนวนเงิน 14,000 บาทต่อเดือน ตลอดระยะเวลา 3 ปี รวมเป็นยอดชำระทั้งหมด 504,000 บาท แบ่งเป็นเงินต้น 347,196.69 บาท และคิดเป็นดอกเบี้ย 156,803.34 บาท
การคำนวณเงินต้นและดอกเบี้ยตามกรณีตัวอย่างด้านบนเป็นการคำนวณเบื้องต้น 3 ปีแรกเท่านั้น หากต้องการคำนวณการผ่อนสินเชื่อบ้านตลอดระยะเวลาการกู้ สามารถดาวน์โหลดตารางคำนวณผ่อนสินเชื่อบ้าน โดยอ้างอิงจากอัตราดอกเบี้ยและการผ่อนชำระจริงต่อเดือนได้ที่นี่
***ทั้งนี้การคำนวณดังกล่าวเป็นการคาดคะเน อัตราจริงขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร***