เรื่องของคุณ (อาจ) ไม่น่ารักสำหรับโลกโซเชียล

โลกโซเชียล…ทำให้เราสามารถพูดคุยกับเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานแต่บังเอิญมาเจอกันตอนโตได้ ได้อ่านเรื่องตลกๆ ของเพื่อนบนหน้าฟีด รวมถึงแบ่งปันรูปถ่ายของกินอร่อยๆ ที่จะทำให้เพื่อนๆ เห็นแล้วอดใจไม่ไหว ซึ่งนั่นคือสิ่งที่คนส่วนใหญ่สื่อสารและใช้งานบนโลกโซเชียล ในการแสดงออกถึงการกระทำ ความคิด ไลฟ์สไตล์ และกิจกรรมต่างๆ แต่ทว่าโลกโซเชียลก็ไม่ได้มีแต่ด้านดีเสมอไป

การที่เราได้แบ่งปันข้อมูลและแสดงความคิดเห็นกันแบบ Real-time บนโลกโซเชียลอย่างเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรือทวิตเตอร์นั้นเหมือนดาบสองคมที่สามารถทำลายเราได้อย่างง่ายดายผ่านสเตตัสที่เราเขียนขึ้นมา ซึ่งเพียงไม่กี่วินาทีที่ข้อความของเราถูกเผยแพร่ออกไปนั้นสามารถทำให้คนที่เห็นพูดถึงและตีความได้หลายอย่าง ซึ่งอาจจะทำให้ภาพลักษณ์ของเราที่สั่งสมไว้ต้องพังเพียงเพราะไม่กี่ประโยคของเรา ทั้งนี้รูปถ่ายของใช้ ของกินที่มีราคาแพงก็อาจดึงดูด และสร้างความไม่พอใจให้กับคนที่เห็นได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราจึงควรคิดและไตร่ตรองให้ดีก่อนโพสต์หรือแสดงความคิดเห็นต่างๆ ลงไปบนโลกโซเชียล เพราะบางอย่างเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ข้อความของเราอาจจะไปทำร้ายหรือกระทบจิตใจคนอื่นได้

• ไม่ต้องแสดงความคิดเห็นไปซะทุกเรื่อง เข้าใจว่าโลกโซเชียลสมัยนี้นิยมดราม่าซะเหลือเกิน แต่การคอมเมนต์ที่ใช้อารมณ์ความรู้สึกของตัวเองเป็นหลัก จนทำให้เกิดความขัดแย้งหรือการโต้เถียงกันไม่ใช่เรื่องที่น่าอ่านสักเท่าไหร่ ควรเลือกอ่านอย่างเหมาะสมเพื่อเรียนรู้จะดีกว่า
• ไม่จำเป็นต้องโพสต์ทุกอย่างให้โลกรู้ เพราะเรื่องบางเรื่องควรเก็บไว้เป็นส่วนตัวจะดีกว่า โดยเฉพาะเรื่องที่ทำให้เกิดความคิดในแง่ลบต่อเรา ยิ่งหากเกิดคอมเมนต์ที่ไม่ถูกใจ จะยิ่งทำให้เกิดความขุ่นเคืองใจเปล่าๆ เพราะฉะนั้นก่อนจะโพสต์อะไรในโซเชียลควรคิดให้รอบคอบ
• เลือกกดรับเฉพาะเพื่อนจริงๆ บางคนอยากได้ยอดไลค์มาก ๆ จึงรับทุกคนที่ขอแอดเข้ามา ซึ่งความจริงแล้วไม่จำเป็นเลยที่เราต้องกดรับคนไม่รู้จัก เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดเมื่อเวลาเราโพสต์ข้อความบางอย่างที่คนรู้จักเราจริงๆ จะเข้าใจ จะได้ไม่ต้องมานั่งกด unfollow ให้เสียเวลาหรือเสียความรู้สึกกันภายหลัง

อีกทางหนึ่งเราสามารถป้องกันเรื่องราวต่างๆที่กล่าวมาในข้างต้นได้เพียงแค่รู้จักจัดการความเป็นส่วนตัวให้กับบัญชีของเราง่ายๆ กับบางโพสต์ที่เราไม่ต้องการเปิดเป็นสาธารณะ โดยการตั้งค่าจำกัดการเห็นเฉพาะเพื่อนของเราเท่านั้น ในส่วนนี้จะทำให้คนที่ไม่ใช่เพื่อนของเรามองไม่เห็นโพสต์ ซึ่งการตั้งค่านี้เป็นวิธีที่ช่วยป้องกันการโจรกรรมข้อมูลได้ในระดับหนึ่งด้วย ทั้งนี้เราไม่จำเป็นต้องโพสต์พร่ำเพื่อก็ได้ ซึ่งถ้าเราอยากจะโพสต์เพื่อเก็บไว้ให้เฟซบุ๊ก เตือนเราในอีกทุกๆปีข้างหน้าก็ให้ตั้งค่าจำกัดการมองเห็นเป็นแบบส่วนตัว อย่าง Only me จะดีกว่า เพื่อลดความรำคาญจากโพสต์ของเราที่มีมากเกินไป

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการตั้งค่าในเบื้องต้นเท่านั้นอย่างไรก็ตามถ้าเราโพสต์อย่างมีสติ และไม่ก่อให้เกิดเรื่องร้ายแรงหรือเสื่อมเสียกับตัวเองและคนอื่น การเลือกใช้ประโยชน์จากโลกโซเชียล ด้วยความสร้างสรรค์บนพื้นฐานของความระมัดระวังและรอบคอบก็จะทำให้เราไม่ตกเป็นเครื่องมือของภัยที่มีอยู่มากมายในโลกของอินเตอร์เน็ต ตรงกันข้ามถ้าเรารู้จักใช้ประโยชน์เทคโนโลยีอย่างโซเชียลมีเดียที่มีให้อย่างเช่น การสร้างเพจไว้เป็นสื่อกลางสำหรับประชาสัมพันธ์ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ สินค้าให้แก่ผู้ติดตาม การสร้างกลุ่มไว้พูดคุยเฉพาะเรื่องที่เราสนใจเหมือนกัน การลงโพสต์ขายของสร้างรายได้ การหาเงินจากโฆษณา รวมไปถึงการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ เพื่อให้ภาพลักษณ์ของเราไปในทางที่ดี และก่อให้เกิดรายได้โดยที่เราไม่ต้องลงทุนมากถือเป็นข้อดีที่เราควรนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากกว่าใช้เล่นไปแต่ละวัน แต่ถ้ามีโซเชียลไว้เล่นอย่างเดียวจริงๆ ก็อย่าลืมที่จะหลีกเลี่ยงข้อเสียที่จะทำให้เรากลายเป็นคนไม่น่ารักสำหรับโลกโซเชียลด้วยนะครับ