พอเข้าสู่เทศกาลการยื่นภาษีทีไร ใครหลายคนมักจะสับสนและปวดหัวเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เสมอ ถ้าเตรียมไว้แล้วก็ไม่เป็นไรแต่ถ้าฉุกเฉินไม่ได้เตรียมไว้ก็ยุ่งเหมือนกัน พอจ่ายภาษีทีก็แทบลมจับเหมือนกัน แต่ก็เป็นหน้าที่ที่คนทำงานทุกคนเจอไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรก็ตามคงไม่พ้นเรื่องของการยื่นภาษีที่เราต้องยื่นกันทุกปี เราเลยจะลิสต์มาให้ดูว่า สิ่งไหนบ้างที่ใครส่วนใหญ่มักเข้าใจผิด เกี่ยวกับการยื่นเสียภาษี ถ้าเข้าใจตามนี้ ไม่มีพลาดแน่นอน
หลายคนมักเข้าใจว่า “ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้แล้ว ถือว่ายื่นภาษีแล้ว” แท้จริงแล้วการถูกหักภาษีคือการจ่ายภาษีไว้ล่วงหน้า ซึ่งต้องเข้าใจก่อนว่า ภาษีหัก ณ ที่จ่าย จะหักออกจากจำนวนภาษีสิ้นปีที่เราต้องจ่าย และถ้าคุณถูกหักภาษีส่วนนี้มากเกินกว่าจำนวนภาษีสิ้นปีที่คำนวณออกมาได้ จะได้รับเงินคืนภาษี เป็นส่วนที่ทางรัฐกำหนดไว้เพื่อลดจำนวนเงินก้อนที่เราต้องจ่ายจำนวนมากในครั้งเดียวของการเสียภาษี หลายคนเข้าใจว่าถูกหักภาษีแล้วจบ จริง ๆ แล้วคือจุดเริ่มต้น เพราะว่าเมื่อไหร่ที่เราถูกหัก สรรพากรก็จะมีข้อมูลทันทีว่าเรามีรายได้เท่าไหร่ แล้วเราต้องยื่นภาษีเท่าไหร่
รายการค่าลดหย่อนภาษีที่ฮิตที่สุด คงหนีไม่พ้นการทำประกันชีวิต บางคนทำประกันชีวิตไว้เพราะหวังจะนำมาลดหย่อนภาษีเยอะๆ เพราะเห็นว่าเบี้ยประกันชีวิตไปใช้เป็นค่าลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ทางกฎหมายกำหนดให้หักลดหย่อนสูงสุดได้ไม่เกิน 100,000 บาท เช่น ถ้าจ่ายเบี้ยประกันปีละ 500,000 บาทก็นำมาลดหย่อนได้ 100,000 บาทเท่านั้น อีกทั้งไม่ใช่ทุกประกันชีวิตจะสามารถนำมาลดหย่อนได้ แต่ต้องเป็นแบบประกันที่มีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ฉะนั้นมือใหม่ควรศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขให้ดี เพื่อที่จะได้ไม่เข้าใจผิด
เชื่อว่ามือใหม่หลายคนมักจะสับสนระหว่างคำว่า “ค่าใช้จ่าย” กับ “ค่าลดหย่อนภาษี” ว่าเป็นคำๆเดียวกัน แต่แท้จริงแล้วสองคำนี้มีความหมายที่แตกต่างกัน “ค่าลดหย่อนภาษี” คือ สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่กฎหมายมอบให้ โดยขึ้นอยู่กับสถานภาพและภาระของตัวผู้เสียภาษีคนนั้นๆ เช่น มีภาระดูแลพ่อแม่ มีภาระจ่ายดอกเบี้ยซื้อที่อยู่อาศัยหรือจ่ายเบี้ยประกันชีวิต ในขณะที่ “ค่าใช้จ่าย” คือ สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่กฎหมายมอบให้โดยขึ้นอยู่กับประเภทของ เงินได้ ที่คุณได้รับ เช่น ถ้ามีรายได้จากงานประจำจะหักค่าใช้จ่ายได้แบบนึง แต่ถ้ามีรายได้จากดอกเบี้ยจะหักค่าใช้จ่ายไม่ได้เลย
มักเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันอยู่เสมอ กฏหมายไม่ได้กำหนดว่า ผู้มีรายได้ไม่เกิน 150,000 บาท ไม่ต้องยื่นภาษี จริง ๆ แล้ว ส่วนที่ไม่ต้องเสียภาษีคือ เงินได้สุทธิ 150,000 บาท หลายคนเอาเรื่องของ เงินได้สุทธิจำนวน 150,000 บาท ที่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามาปนกัน ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว กฎหมายกำหนดให้รายได้ขั้นต่ำที่ต้องยื่นภาษี (แม้ว่าจะไม่ต้องเสียภาษี) เช่น คุณเป็นคนโสดและมีรายได้ทั้งปี 120,000 บาท คุณก็จะมีค่าลดหย่อนเบื้องต้น 60,000 บาท นั่นหมายความว่า เงินได้สุทธิของคุณก็จะเท่ากับ 60,000 บาท คุณก็จะอยู่ในอัตราที่ไม่ต้องเสียภาษี แต่ถึงยังไงคุณก็ควรยื่นภาษี เพราะสรรพากรจะได้ทราบเงินได้แต่ละปีของคุณซึ่งสามารถนำข้อมูลของคุณไปสะท้อนรายได้ในปีต่อ ๆ ไปได้ และให้รัฐบาลสามารถเอาข้อมูลของคุณไปเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์เศรษฐกิจของประเทศได้
เป็นความเข้าใจผิด เพราะการสมัครพร้อมเพย์แค่ทำให้เราสามารถได้คืนภาษีได้ไวขึ้นเท่านั้น เพียงแต่รัฐบาลสนับสนุนการคืนผ่านพร้อมเพย์มากกว่า ใครที่สมัครก็มีโอกาสได้รับคืนเร็วกว่า โดยเงินคืนภาษีของเราจะถูกโอนเข้าบัญชีที่ลงทะเบียนพร้อมเพย์ไว้ แต่หากไม่มีพร้อมเพย์ ก็สามารถนำหนังสือแจ้งคืนภาษีไปติดต่อที่ธนาคารกรุงไทย เพื่อนำเงินภาษีเข้าบัญชี และถ้าไม่มีบัญชีธนาคาร แต่ต้องการเงินคืนภาษีก็ไม่ต้องกังวลใจ สามารถติดต่อขอเงินคืนภาษีที่ธนาคารกรุงไทย โดยทำตามระบบที่ทางธนาคารกำหนดไว้ เตรียมหนังสือแจ้งคืนเงินภาษีที่สรรพากรจัดส่งให้ทางไปรษณีย์ พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารที่เกี่ยวข้อง
คนจำนวนไม่น้อยที่ต้องเปลี่ยนงานในระหว่างปี ด้วยเหตุผลที่หลากหลายตามความจำเป็นของแต่ละบุคคล แต่ทุกครั้งที่เปลี่ยนงาน มักจะมีคำถามตามมาว่าต้องยื่นภาษีจากที่ทำงานเก่าหรือไม่? คำตอบก็คือ รายได้ทุกอย่างไม่ว่าจะมาทางใดภายใน 1 ปี ต้องนำมายื่นภาษีทั้งหมด แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนงาน เราต้องนำข้อมูลมายื่นภาษีให้ถูกต้อง ส่วนใครที่ได้รับเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพออกมาก็อย่าลืมเอามาคำนวณด้วย ส่วนในกรณีลาออกจากงานแล้วได้รับเงินชดเชย ก็ต้องนำมายื่นภาษีด้วยเช่นกัน แต่อย่าพิจาราณาเรื่องสถานะว่าเป็นการไล่ออกหรือลาออก เพราะถ้าหากเป็นการลาออกตามความสมัครใจ แล้วได้รับค่าชดเชย เงินในส่วนนี้จะไม่ได้รับยกเว้นตามกฎหมาย ต้องเอามารวมคำนวณภาษีด้วย สิ่งที่สำคัญเมื่อออกจากงานแล้ว อย่าลืมขอเอกสารหลักฐานการหักภาษี ณ ที่จ่ายของปีนั้นๆ จากที่ทำงานเก่ามาให้ครบถ้วน
หากคุณยื่นภาษีผ่านอินเทอร์เน็ตไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่อยู่ๆ เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่ามีรายได้บางส่วนที่ลืมแจ้ง หรือมีค่าลดหย่อนบางส่วนที่กรอกเพื่อขอคืนภาษี ยื่นผิดแบบต้องทำอย่างไร อย่าเพิ่งตกใจไป วิธีแก้ง่ายๆ หากยื่นผิดก็ยื่นใหม่ได้ ให้ยื่นแบบแสดงรายการใหม่ทั้งหมด โดยกรอกข้อมูลเหมือนการยื่นแบบครั้งแรก เพราะสามารถกดยื่นเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขรายการเก่าแล้วกดตกลงได้เลย ส่วนหลังยื่นภาษี คือส่วนที่ได้รับเงินคืนมาแล้วเพิ่งทราบข้อผิดพลาด ให้ลองตรวจสอบจำนวนเงินที่ได้รับมา หากได้รับมากหรือน้อยกว่าที่ควร ให้รีบติดต่อสรรพากรเพื่อพิจารณาข้อมูลการยื่นภาษีอีกครั้ง
สิ่งสำคัญที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราต้องรับผิดชอบ ก็คือการคำนวณและยื่นภาษีให้ถูกต้อง เพราะเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี และทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วสำหรับมือใหม่ทุกคนไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก ขอเพียงแค่เข้าใจอัตราภาษีและสิทธิลดหย่อนภาษีของตัวเอง เพียงเท่านี้เราก็สามารถคำนวณภาษีที่ต้องจ่ายในแต่ละปีได้ง่ายๆ หากมีตัวช่วยที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ ก็ทำให้เราสบายขึ้นมาหน่อย การซื้อประกันก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ อย่างประกันเพื่อการเก็บออม ออมคุ้มคุ้ม Max จากแมนูไลฟ์ ออมง่ายๆ ลดหย่อนภาษีได้ ออมสั้นเพียง 5 ปี คุ้มครองยาวถึง 10 ปี ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
หน้าที่เข้าชม | 184,370 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 142,382 ครั้ง |
เปิดร้าน | 4 เม.ย. 2561 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |